เทคโนโลยี RFID (Radio-Frequency Identification)
แนะนำเทคโนโลยี RFID (Radio-Frequency Identification)
Update : 2023-09-28
เทคโนโลยีเพื่อการระบุตัวตนหรือสิ่งของต่างๆ ด้วยคลื่นความถี่วิทยุ โดยทั่วไปนิยมเรียกกันในชื่อย่อ RFID เป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาให้ใช้คลื่นความถี่วิทยุ เพื่อระบุแท็กที่ติดอยู่กับวัตถุ และ ใช้รหัสหมายเลขของประจำตัวแท็ก เพื่อการระบุวัตถุนั้นๆ เทคโนโลยี RFID ถือได้ว่าเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญมาก สำหรับการใช้งานด้านลอจิสติกส์ และนอกจากนี้ ยังมีการประยุกต์ใช้งานที่เพิ่มากขึ้น สำหรับอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตด้วยเช่นกัน
เทคโนโลยี RFID มีจุดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประยุกต์ใช้งานภายในองค์กรหรือบริษัท โดยสามารถเลือกใช้ให้สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทได้ เช่น การลดต้นทุนการผลิต, การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าที่ดีขึ้น, การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และอื่นๆ เทคโนโลยี RFID สามารถช่วยให้บรรลุเป้าหมายเหล่านี้ได้
การทำให้การผลิตมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้นเป็นเป้าหมายร่วมกันในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ไม่เพียงเฉพาะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่เทคโนโลยี RFID ได้รับการออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์นี้ แต่การระบุตัวตนด้วยความถี่วิทยุสามารถใช้เพื่อติดตามผลิตภัณฑ์ตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (product lifecycle) การรวบรวมข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ลอจิสติกส์ และขั้นตอนการผลิตเพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิตต่อไป
เทคโนโลยี RFID คืออะไร?
RFID เป็นเทคโนโลยีความถี่วิทยุประเภทหนึ่งที่ใช้คลื่นวิทยุเพื่อระบุแท็กที่ติดอยู่กับวัตถุและระบุตัวตนของวัตถุนั้น โดย แท็ก จะประกอบด้วยชิปตัวรับส่งสัญญาณซึ่งถูกกระตุ้นโดยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเครื่องอ่าน RFID และส่งหมายเลขประจำตัวกลับไปยังเครื่องอ่าน จากนั้นหมายเลขประจำตัวจะถูกใช้สำหรับระบุสินค้าคงคลังของวัตถุที่มีแท็กติดอยู่ ซึ่งแท็กอาจจะเป็นแบบพาสซีฟหรือแอคทีฟก็ได้ โดยแท็กแบบพาสซีฟจะใช้พลังงานจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ส่งมาจากเครื่องอ่านเท่านั้น จึงทำให้แท็กแบบนี้มีช่วงการทำงานที่สั้น เมื่อเทียบกับแบบแอคทีฟแท็ก ซึ่งให้ระยะการทำงานได้ไกลกว่ามาก แต่ก็ข้อเสียที่ต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ด้วยการใช้เทคโนโลยีไร้สาย สำหรับการใช้งานแท็ก RFID นั้น ไม่จำเป็นต้องอยู่ในแนวตรงกับเครื่องอ่าน RFID ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่ชัดเจน เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องสแกนบาร์โค้ดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน นอกจากนี้ แท็ก RFID ยังสามารถฝังหรือซ่อนไว้ในวัตถุได้ และที่สำคัญแท็กหลายชิ้น ยังสามารถระบุได้พร้อมกันด้วยเครื่องอ่านเพียงเครื่องเดียว ในขณะที่เครื่องสแกนบาร์โค้ดผู้ใช้จะต้อง "ดู" บาร์โค้ดก่อนจะสแกนอ่านข้อมูลเสมอ
RFID ถูกนำมาใช้ในการใช้งานและอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย ได้แก่ การผลิตยา การค้าปลีก การเกษตร และการดูแลรักษาทางการแพทย์ ตลอดจนการประยุกต์ใช้กับการติดตามยานพาหนะ สัตว์เลี้ยง และปศุสัตว์ ตัวอย่างเช่น วัตถุหรือสินค้าที่มีแท็ก RFID ฝังอยู่และเคลื่อนที่ผ่านสายการผลิตหรือคลังสินค้า ซึ่งได้ติดตั้งเครื่องอ่าน RFID จะสามารถสแกนได้ที่สถานีการผลิตต่างๆ และทำให้สามารถติดตามความคืบหน้าได้โดยอัตโนมัติ
เทคโนโลยี RFID ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและใช้งานระบบ RFID ก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ RFID เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพแทนการสแกนด้วยแสงแบบเดิม และได้มีการทำข้อกำหนดมาตรฐานสำหรับเทคโนโลยี RFID โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว มาตรฐานดังกล่าวนี้ ใช้วิธีการเข้ารหัสบนชิปและการตรวจสอบความถูกต้องของแท็กเพื่อให้มีความปลอดภัยสูง ตลอดจน เครื่องอ่าน ที่ใช้ข้อมูลลายเซ็นดิจิทัล
ส่วนประกอบหลักของเทคโนโลยี RFID
(1) Tags : แท็ก RFID คือสิ่งที่จัดเก็บข้อมูลและสามารถส่งข้อมูลที่ต้องถอดรหัสไปให้กับเครื่องอ่าน โดยการใช้งานสามารถแนบแท็กกับสินค้าหรือทรัพย์สินได้ โดยภายในแท็กมีไมโครชิปที่ฝังอยู่และนี้คือ สิ่งที่จัดเก็บ ID ของแท็กและข้อมูลที่สามารถโปรแกรมได้เพื่อเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับตัวสินค้านั้นๆ ข้อมูลที่เก็บไว้นี้จะถูกถ่ายโอนส่งไปยังเครื่องอ่านผ่านเสาอากาศ
(2) เสาอากาศ : เสาอากาศเป็นองค์ประกอบที่จำเป็นในระบบ RFID สำรับส่งข้อมูลของแท็ก RFID ไปยังเครื่องอ่าน หากไม่มีเสาอากาศ เครื่องอ่าน RFID จะไม่สามารถส่งและรับสัญญาณไปยังแท็ก RFID ได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ คุณสมบัติของเสาอากาศ ยังมีผลต่อระยะการใช้งานด้วยเช่นกัน
(3) RFID Reader : เครื่องอ่าน RFID จะเชื่อมต่อกับเสาอากาศและรับข้อมูลจากแท็ก RFID โดยเครื่องอ่านนี้คือสิ่งที่ทำหน้าที่รับและแปลงคลื่นวิทยุเป็นข้อมูลดิจิทัล เพื่อให้สามารถนำไปใช้งานได้ เช่น การบันทึกเข้าระบบฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์
เครื่องอ่าน RFID มีสองประเภท คือ แบบติดตั้งคงที่ และ แบบพกพาเคลื่อนที่ได้
- แบบติดตั้งคงที่ : โดยทั่วไปแล้ว จะติดตั้งกับผนัง หรือ เสายึดคงที่ไม่เคลื่อนย้าย
- แบบพกพาเคลื่อนที่ได้ : สามารถติดตั้งหรือพกพาไปได้ทุกที่ที่ต้องการ
(4) ฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์คอนโทรลเลอร์ : ระบบ RFID จะใช้ฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์เพื่อประมวลผลข้อมูลที่เก็บไว้ในแท็ก ซอฟต์แวร์นี้อาจมีความสามารถแตกต่างกันขึ้นกับผู้พัฒนา โดยจะมีความสามารถ เช่น การอ่านข้อมูลจากแท็ก, การเขียนข้อมูลลงสู่แท็ก, การจัดการอุปกรณ์ , การตรวจสอบระยะไกล และการกำหนดค่าฮาร์ดแวร์ เป็นต้น